ปล่อยภาษีรถยนต์ขาด มีโทษร้ายแรงแค่ไหน วันที่สร้าง : 2025-09-03 08:59:14 เปิดดูทั้งหมด : 58 ครั้ง ลืมต่อภาษีจะมีค่าปรับเท่าไหร่? ทันทีที่ภาษีรถยนต์ของคุณหมดอายุและยังไม่ได้ไปต่อตามกำหนด เมื่อคุณนำรถไปดำเนินการต่อภาษี ณ กรมการขนส่งทางบกหรือช่องทางอื่นๆ คุณจะต้องชำระค่าปรับจากการต่อล่าช้า ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ในอัตรา "ร้อยละ 1 ต่อเดือน ของค่าภาษีรถยนต์ที่ต้องชำระ" ตัวอย่างการคำนวณ: หากรถของคุณมีค่าภาษีปีละ 1,800 บาท และคุณต่อภาษีช้าไป 5 เดือน ค่าปรับต่อเดือน: 1,800 x 1% = 18 บาท ค่าปรับรวม 5 เดือน: 18 x 5 = 90 บาท แม้จำนวนเงินอาจดูไม่มากนัก แต่ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนเดือนที่คุณค้างชำระ ค่าปรับเมื่อเจอด่านตรวจ อีกหลายคนที่หลายคนกังวลมากที่สุด หากคุณนำรถที่ภาษีขาดออกมาใช้งานบนท้องถนนและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ คุณจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งมีบทลงโทษดังนี้ โทษฐานไม่มีแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี (ป้ายวงกลม): การไม่ติดป้ายวงกลม หรือติดป้ายที่หมดอายุแล้วไว้ที่หน้ารถ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โทษฐานใช้รถที่ยังไม่เสียภาษีประจำปี: หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ารถของคุณยังไม่ได้ชำระภาษี มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เช่นกัน นอกจากนี้ การต่อภาษีรถยนต์จะต้องใช้เอกสาร พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ยังไม่หมดอายุ หากคุณไม่มี พ.ร.บ. (ซึ่งหมายความว่าจะต่อภาษีไม่ได้) และนำรถมาขับขี่ จะมีโทษปรับอีกกระทงหนึ่ง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ลืมนานเกิน 3 ปีจะเกิดอะไร และถ้าร้านแรงสุดหากคุณปล่อยให้ภาษีรถยนต์ขาดการติดต่อนานเกิน 3 ปี ทะเบียนรถของคุณจะถูก "ระงับ" โดยอัตโนมัติจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนี้ ป้ายทะเบียนถูกยกเลิก: คุณจะไม่สามารถใช้เลขทะเบียนเดิมได้อีกต่อไป และต้องนำแผ่นป้ายทะเบียนพร้อมสมุดคู่มือจดทะเบียนรถไปคืนแก่กรมการขนส่งทางบกภายใน 30 วัน หากไม่คืนตามกำหนดมีโทษปรับอีกไม่เกิน 1,000 บาท ต้องจดทะเบียนใหม่เท่านั้น: หากต้องการกลับมาใช้รถคันดังกล่าวอย่างถูกกฎหมาย คุณต้องดำเนินเรื่อง "จดทะเบียนรถใหม่" เท่านั้น ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการต่อภาษีปกติมาก ต้องชำระภาษีย้อนหลัง: คุณยังคงต้องรับผิดชอบชำระค่าภาษีที่ค้างไว้พร้อมค่าปรับย้อนหลังอีกด้วย สุดท้ายแล้ว เรื่องการต่อทะเบียนรถ หรือจ่ายแค่ภาษีรถยนต์ เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำสำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนที่ต้องทำ การปล่อยให้ขาด จะทำให้คุณเสียเวลาและผิดกฎหมายจนเรียกว่าร้ายแรงไม่แพ้กับใบขับขี่หมดอายุเลย
