7 วิธีรับมือมิจฉาชีพออนไลน์ 2025 ไม่ให้ถูกหลอกดูดเงินจากบัญชี วันที่สร้าง : 2025-03-06 08:18:38 เปิดดูทั้งหมด : 115 ครั้ง ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต มิจฉาชีพออนไลน์ ก็พัฒนากลโกงให้ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการแอบอ้างส่งลิงก์ปลอม การหลอกขอข้อมูลส่วนตัว หรือแม้แต่แฮกบัญชีธนาคาร โตโยต้า ลีสซิ่ง เลยจะมาแชร์ วิธีป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ ปี 2025 อัปเดตที่สุด เพื่อช่วยให้ปลอดภัยจากการถูกหลอกดูดเงินจากบัญชี 1. อย่าคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ใน SMS, อีเมล หรือข้อความแชต หากลิงก์ดูแปลก ๆ หรือส่งมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ห้ามคลิกโดยเด็ดขาด เพราะมิจฉาชีพออนไลน์มักใช้ลิงก์ปลอม ที่ดูเหมือนเว็บไซต์ธนาคารหรือร้านค้าออนไลน์ เพื่อลวงให้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตรเครดิต หรือรหัสผ่าน ตรวจสอบ URL ให้แน่ใจว่าถูกต้อง อย่ารีบตัดสินใจหากมีข้อความเร่งให้ทำอะไรเร็ว ๆ 2. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) การยืนยันตัวตนสองชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกระดับ เช่น เมื่อเข้าสู่ระบบบัญชีธนาคารหรือแอปโซเชียลมีเดีย เพราะแม้มิจฉาชีพจะรู้รหัสผ่านของเรา แต่ถ้าเปิดใช้ 2FA ก็จะยังต้องมีรหัส OTP หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่มิจฉาชีพไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นควรตั้งค่าผ่านแอปธนาคาร หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ใช้แอปยืนยันตัวตน 3. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์ ก่อนซื้อของออนไลน์ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า เช่น ดูรีวิว หรือเช็กข้อมูลการติดต่อ เนื่องจากมิจฉาชีพออนไลน์ มักสร้างร้านปลอมที่ดูเหมือนร้านจริง เพื่อหลอกให้โอนเงิน ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และหลีกเลี่ยงการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว 4. ระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย อย่าโพสต์ข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน วันเกิด หรือที่อยู่บนโซเชียลมีเดีย เพราะมิจฉาชีพสามารถนำข้อมูล ไปใช้สมัครสินเชื่อหรือปลอมแปลงเอกสาร แนะนำว่าควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ในบัญชีโซเชียลมีเดีย แชร์เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและไม่เสี่ยง 5. อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเสมอ อย่ามองข้ามการอัปเดตระบบปฏิบัติการหรือแอปต่าง ๆ เพราะมักมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เนื่องจากมิจฉาชีพออนไลน์ อาจใช้ช่องโหว่ในระบบที่ไม่ได้อัปเดตเพื่อล้วงข้อมูล อาจใช้การตั้งค่าให้ระบบอัปเดตอัตโนมัติ และดาวน์โหลดแอปจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น 6. อย่าใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรม หลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบธนาคารหรือทำธุรกรรมผ่าน Wi-Fi สาธารณะ เพราะข้อมูลอาจถูกดักจับ เนื่องจากWi-Fi สาธารณะไม่ได้เข้ารหัสที่ปลอดภัย ทำให้ข้อมูลที่ส่งหรือรับอาจถูกแฮก แนะนำให้ใช้เครือข่ายส่วนตัว (VPN) หากจำเป็น และใช้เครือข่ายมือถือแทน Wi-Fi สาธารณะ 7. ติดตามข่าวสารและเรียนรู้เกี่ยวกับมิจฉาชีพออนไลน์ อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใหม่ ๆ ที่ มิจฉาชีพออนไลน์ ใช้หลอกลวง และแชร์ให้คนใกล้ตัวรู้ การรู้ทันกลโกงช่วยลดโอกาสถูกหลอก และยังช่วยป้องกันคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย