รถความร้อนขึ้น สังเกตอย่างไร ขับต่อได้หรือไม่ ? วันที่สร้าง : 2023-08-25 15:50:08 เปิดดูทั้งหมด : 896 ครั้ง รถยนต์ร้อนทำไงดีเป็นอันตรายต่อรถยนต์ไหม ถือเป็นยานพาหนะที่มอบความเป็นส่วนตัว และอำนวยความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ จึงไม่แปลกที่เรามักจะเห็นรถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนจะต้องมีสติและไม่ประมาท เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง ทุกครั้งที่ต้องเดินทางควรตรวจเช็คสภาพรถ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทาง ระดับความร้อนเท่าไหร่ ถึงเรียกว่า "ความร้อนขึ้นสูง" “ความร้อนขึ้นสูง” ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ สามารถสังเกตการแจ้งเตือนความร้อนของเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ มีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้ แบบที่ 1 แบบเกจ การทำงานของเกจจะอยู่ในช่วงอุณภูมิที่ไม่เกินครึ่งของมาตรวัด หากเข็มเกจชี้มาทาง H (Hot=ร้อน) เกินครึ่ง นั่นคือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในระบบหล่อเย็น หรือ อุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงอย่างแน่นอน แบบที่ 2 แบบไฟเตือน - ถ้าไฟขึ้นสีแดง หมายถึง เครื่องยนต์ร้อน หรือระบบหล่อเย็นมีอุณหภูมิสูง (สูงกว่า 117 oC) - ถ้าไฟขึ้นสีเขียว (ฟ้า) หมายถึง เครื่องยนต์เย็น เครื่องยนต์ หรือระบบหล่อเย็นมีอุณหภูมิต่ำ (ต่ำกว่า 60 oC) *สำหรับรุ่นรถยนต์ที่ใช้ไฟเตือนสัญญาณต่างๆ ต้องสังเกตสีของการเตือนด้วยว่ารถยนต์ของคุณปกติ หรือ ไม่ปกติ รถยนต์ความร้อนขึ้น ขับต่อ หรือ จอดดี ? เมื่อพบว่ารถยนต์ของคุณเกิดความร้อน ให้หาที่จอดรถในที่ปลอดภัยทันที พร้อมเปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เย็นลงให้คุณทำการเปิดฝาหม้อน้ำ ห้ามเปิดในขณะที่เครื่องยังร้อนอยู่ เพราะแรงดันน้ำในหม้อน้ำ อาจพุ่งขึ้นมาโดนหน้าจนได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่เปิดให้สวมถุงมือเพื่อป้องกันความร้อน เช็คดูปริมาณน้ำในหม้อหากพบว่าปริมาณน้ำน้อย ให้เติมน้ำลงไป แล้วสังเกตดูระดับน้ำประมาณ 5 นาที หากน้ำลดลงนั่นหมายความว่า หม้อน้ำแตก ให้คุณทำการเรียกช่างมาตรวจสอบแก้ไขในกรณีบริเวณที่รถเสียไม่มีอู่ซ่อม แต่ถ้ามีการรั่วเล็กน้อย สามารถขับต่อไปยังร้านซ่อมรถได้เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป